พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารและความคิดเห็นต่อปัจจัยส่วนประสม ทางการตลาด ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในจังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร, พฤติกรรมการท่องเที่ยว, ปัจจัยส่วนประสมการตลาดบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการเลือกการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 150 ชุด กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ มีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาโดยกำหนดให้การท่องเที่ยวเชิงอาหาร หมายถึง การท่องเที่ยวที่มีจุดประสงค์เพื่อการชิม เยี่ยมชม ซื้อและเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารในแหล่งบริการอาหาร ผลการศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารพบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพักผ่อนมากที่สุด ร้อยละ 65.33 ขณะที่มุ่งเน้นการชิมอาหารพื้นเมืองและเครื่องดื่มที่แนะนำจากสื่อออนไลน์ ร้อยละ 24.67 การซื้ออาหาร ร้อยละ 10.67 และเรียนรู้การทำอาหาร ร้อยละ 4.67
ความนิยมรับประทานอาหารสูงสุด คือ อาหารพื้นเมืองในชุมชน ร้อยละ 69.33 เหตุผลที่ชอบสูงสุด คือมีรสชาติอร่อย ร้อยละ 82.67 โดยมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 300 บาท ร้อยละ 23.33 และมากกว่า 1,000 บาท ร้อยละ 21.33 และชอบทำกิจกรรมอาหารสูงถึง ร้อยละ 85.33 ส่วนผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการเลือกการท่องเที่ยวเชิงอาหาร พบว่า ปัจจัยด้านคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริการมีระดับความคิดเห็นสูงสุดโดยเฉพาะรสชาติที่อร่อยและมีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น ปัจจัยรองลงมา คือ ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการขาย และปัจจัยด้านราคา ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). สรุปรายได้และค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย. สืบค้น 2 เมษายน 2564, จาก https://www.mots.go.th/more_news.php?cid=411
ชญานิน วังซ้าย. (2560). Food will keep us live. TAT Review Magazine. 3(4), 61 65.
ญาดา ชอบทำดี และนรินทร์ สังข์รักษา. (2562). รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหารพื้นถิ่นชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก. วารสารดุสิตธานี. 3(2), 403-413.
ทักษิณา คุณารักษ์. (2546). การตลาดและการตัดสินใจซื้อของนักท่องเที่ยว. เชียงใหม่: สาขาวิชาการท่องเที่ยวคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นุชนารถ รัตนสุวงศ์ชัย และนิรันดร ทัพไชย. (2547). เอกสารประกอบการสอนวิชากลยุทธ์การตลาดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
บุญเลิศ เล็กสมบูรณ์ และสุรีรัตน์ เตชทวีวรรณ. (2554). การศึกษาธุรกิจการบริการอาหารเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เบญจมาศ ณ ทองแก้ว ธาราทิพย์ เกิดสุวรรณ์ จิรัชยา ปรีชาชน และอำนาจ รักษาพล. (2560). การท่องเที่ยวเชิงอาหารตลาดใต้เคี่ยม จังหวัดชุมพร. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่. 9(6), 458-470.
พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2556). ความสำคัญและกิจกรรมสื่อสารเรียนรู้จากการท่องเที่ยว “อาหาร” สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดผู้หญิงชาวต่างประเทศของไทย. วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย. 8(1), 61-72.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2541). กลยุทธ์ทางการตลาดและการบริหารการตลาด. กรุงเทพฯ: ธีระฟิล์มและไซแทกซ์ จำกัด.
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เชียงใหม่. (ม.ป.ป.). สถิตินักท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2559. สืบค้น 2 เมษายน 2560, จาก https://chiangmai.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=592
Kotler, P., Armstrong, G., Saunders, J., & Wong, V. (2002). Principles of marketing (3rd ed.). London, United Kingdom: Prentice-Hall.
Ritchie, J. R. B., & Crouch, G. I.. (2003). The competitive destination: A Sustainable Tourism Perspective. Wallingford, United Kingdom: CABI.
Scarpato, R. (2002). Gastronomy as a tourist product: The perspectives of gastronomy studies. In A-M. Hjalager & G. Richards (Eds.) Tourism and gastronomy (pp. 51-70). London, United Kingdom: Routledge.
Yamane, T. (1973). Statistics an introductory analysis. 2nd ed.. New York Harper & Row. Agritourism and ecotourism. Stellenbosch, South Africa: University of Stellenbosch.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
