จริยธรรมการตีพิมพ์
| จริยธรรมของผู้เขียนบทความ (Author’s Ethical Responsibilities) |
| 1. ผู้เขียนบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ต้องเป็นบทความที่ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาจากวารสารอื่น |
| 2. ผู้เขียนบทความต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัยและต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น ทางวารสารได้กำหนดความซ้ำซ้อนของผลงานโดยใช้โปรแกรมตรวจสอบความซ้ำซ้อน โดยกำหนดค่าไว้ในระดับไม่เกิน 25% |
| 3. ผู้เขียนบทความต้องปฏิบัติตามรูปแบบของวารสารอย่างเคร่งครัด ตามที่ระบุไว้ใน “คำแนะนำสำหรับผู้เขียน” (Author Guidelines) เพื่อให้บทความมีมาตรฐานเดียวกัน |
| 4. ผู้เขียนบทความต้องนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการศึกษาวิจัย โดยไม่บิดเบือนข้อมูลหรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และต้องปราศจากอคติในทุกขั้นตอนการทำวิจัย |
| 5. ผู้เขียนบทความต้องปรับแก้ไขบทความตามคำแนะนำของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิ หากไม่ดำเนินการแก้ไขตามคำแนะนำ ทางวารสารขอสงวนสิทธิ์ไม่รับตีพิมพ์บทความ |
| 6. หากบทความมีการใช้ข้อมูล รูปภาพ ตาราง หรือโมเดลจากแหล่งอื่น ผู้เขียนต้องอ้างอิงที่มาให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้หากมีข้อพิพาททางกฎหมาย ผู้เขียนจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว |
| 7. ผู้เขียนต้องอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้ในบทความอย่างถูกต้องทั้งการอ้างอิงในเนื้อหา (In-text citation) และรายการเอกสารอ้างอิง (Reference list) ตามระบบการอ้างอิงที่กำหนด |
| 8. ในกรณีที่เป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือสัตว์ ผู้เขียนต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยและต้องมีการระบุไว้ในบทความ |
| จริยธรรมของบรรณาธิการวารสาร (Editor’s Ethical Responsibilities) |
| 1. บรรณาธิการมีหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาบทความตามมาตรฐานของวารสาร โดยคำนึงถึงความสอดคล้องของเนื้อหากับขอบเขตของวารสาร รวมถึงตรวจสอบคุณภาพของบทความก่อนเข้าสู่กระบวนการประเมิน |
| 2. บรรณาธิการต้องดำเนินการตรวจสอบบทความที่อาจละเมิดจริยธรรม เช่น การคัดลอกผลงานของผู้อื่น โดยใช้โปรแกรมตรวจสอบความซ้ำซ้อน ซึ่งต้องไม่เกิน 25% |
| 3. บรรณาธิการต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนหรือผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ |
| 4. บรรณาธิการต้องรักษาความลับของข้อมูลผู้เขียนและผู้ประเมินบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาบทความ ซึ่งดำเนินการในรูปแบบ Double-blind Peer Review |
| 5. บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนและผู้ประเมิน เพื่อรักษาความเป็นกลางในกระบวนการบริหารวารสาร |
| 6. บรรณาธิการต้องพิจารณาบทความตามหลักการทางวิชาการ โดยปราศจากอคติในด้านเชื้อชาติ เพศ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง และสถานะของผู้เขียน |
| 7. บรรณาธิการต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและมาตรฐานของวารสารอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กระบวนการบริหารจัดการวารสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน |
| 8. บรรณาธิการต้องคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินคุณภาพของบทความอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส |
| จริยธรรมของผู้ประเมินบทความ (Reviewer’s Ethical Responsibilities) |
| 1. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่กำลังพิจารณาต่อบุคคลอื่น รวมถึงหลังจากการประเมินเสร็จสิ้นแล้ว |
| 2. ผู้ประเมินบทความต้องรับเฉพาะบทความที่อยู่ในขอบเขตความเชี่ยวชาญของตน หากไม่เชี่ยวชาญในสาขานั้น ควรแจ้งให้บรรณาธิการทราบโดยเร็ว |
| 3. ผู้ประเมินบทความต้องไม่ใช้เนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่ตนเองประเมินมาเป็นผลงานของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต |
| 4. ผู้ประเมินบทความต้องพิจารณาเนื้อหาบทความภายใต้หลักวิชาการ โดยไม่มีอคติในด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ วัฒนธรรม หรือสถานะของผู้เขียน |
| 5. หากพบว่าบทความมีความซ้ำซ้อนกับงานวิจัยอื่น หรือมีข้อผิดพลาดด้านจริยธรรม ผู้ประเมินต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบโดยทันที |
| วารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มุ่งมั่นรักษามาตรฐานจริยธรรมการตีพิมพ์ และคำนึงถึงความถูกต้องทางวิชาการในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน |
