การศึกษาเชิงประจักษ์ปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้ แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
ความพึงพอใจ, แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, ผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงิน, แบบจำลองการยอมรับ เทคโนโลยีบทคัดย่อ
การค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยีส่งผลต่อความพึงพอของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ 2) ศึกษาปัจจัยด้านพฤติกรรมส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ และ 3) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงินที่แตกต่างกันในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้งานแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 400 คน ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และIndependent-Sample T-Test ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยี ได้แก่ ด้านการรับรู้ประโยชน์ในการใช้งาน และปัจจัยด้านการรับรู้ความง่ายในการใช้งาน ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 นอกจากนี้ปัจจัยด้านเจตนาเชิงพฤติกรรมในการใช้ ได้แก่ ด้านความปลอดภัยของข้อมูล ด้านโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาด ด้านความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ และด้านการใช้งานมีความสะดวกและรวดเร็ว ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ มีระดับนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 ในขณะที่ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ และ รายได้ ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ดังนั้นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ต้องให้ความสำคัญกับการรับรู้ถึงประโยชน์จากการใช้งานแอปพลิเคชันมากที่สุด จากความสะดวก รวดเร็วในการใช้ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน ต้องมีการพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้บริการที่มากขึ้น และระบบต้องการความปลอดภัย โดยมีการเช็คตรวจสอบตัวตนลูกค้าอย่างเสมอ ทำให้ส่งผลในด้านความน่าเชื่อถือ อีกทั้งควรมีส่วนลดหรือสิทธิ์ในการซื้อสินค้าในราคาพิเศษภายในแอปพลิเคชัน เพื่อดึงดูดผู้ที่มีความสนใจในการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันได้มากอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2559). สถิติทางการรายสาขา, สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2563, ค้นจาก http://chiangmai.nso.go.th/index.php?option=com_content&view=featured&Itemid=623.
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2561). เงินอ ิเล็กทรอน ิกส์ (e-Money), สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2563, ค้นจาก https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/ReportPage.aspx?reportID=694language=th.
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2563). เงินอิเล็กทรอน ิกส์ (e-Money), สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2563, ค้นจาก https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/ReportPage.aspx?reportID=694language=th.
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2563). รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับและบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ, สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2563, ค้นจาก https://www.bot.or.th/Thai/PaymentSystems/PSA_Oversight /Business_Provider/Pages.
William Gemmell Cochran. (1963). Sampling Techniques. New York, London.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

