จิตพฤติกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาระดับจิตพฤติกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ด และ 2) เปรียบเทียบจิตพฤติกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ด จำแนกตามเพศและขนาดโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 420 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดจิตพฤติกรรมประชาธิปไตย ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 75 ข้อ มีค่าอำนาจนำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.32-0.82 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีแบบกลุ่มอิสระ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ดมีระดับจิตพฤติกรรมประชาธิปไตยโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้านคารวธรรม ด้านปัญญาธรรม และด้านสามัคคีธรรม
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ดเพศชายและเพศหญิงมีจิตพฤติกรรมประชาธิปไตย
ไม่แตกต่างกัน แต่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ดที่อยู่ในขนาดโรงเรียนแตกต่างกันมีจิตพฤติกรรมประชาธิปไตยแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้รายใดก็ตามที่จะอ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือเชื่อมโยงไปยังข้อความทั้งหมดของบทความ รวบรวมข้อมูลสำหรับการจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือมีเจตนาเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า (Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2557). ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของ คสช. https://www.moe.go.th/ค่านิยมหลักของคนไทย-12-ปร-2/
คณะกรรมการการเลือกตั้ง, สำนักงาน. (2555). วิถีประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการการเลือกตั้ง.
คณะจิตวิทยา, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2563). พฤติกรรมประชาธิปไตย. https://www.psy.chula.ac.th/th/feature-articles/democratic-behavior
ธนวรรธน์ สุวรรณปาล. (2563). รูปแบบการดำเนินงานสภานักเรียนสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล. (2555). การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น.
พระมหาสำราญ บรรณามล. (2550). การพัฒนาวิถีชีวิตประชาธิปไตยสำหรับนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดไผ่ดำ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
พัชราวลัย ศิลป. (2545). ปัจจัยคัดสรรที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมประชาธิปไตยของวัยรุ่นตอนปลาย. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เลขาธิการวุฒิสภา, สำนักงาน. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
วิชัย ตันศิริ. (2557). ศาสตร์การสอนความเป็นนักประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: สถาบันนโยบายศึกษา มูลนิธิส่งเสริมนโยบายการศึกษา.
วัลยภรณ์ แดงเกิด. (2555). การศึกษาพฤติกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 ที่ผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอกรอบ 2. [ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุทธิพงษ์ เทศต้อม และ จำเนียร พลหาญ. (2566). แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 3(2), 851-866.
หมัดเฟาซี รูบามา, จิตกรี บุญโชติ, นพวัลภ์ มงคงศรี, คัมภีร์ ทองพูน, สุกรี บุญเทพ, พัตรธีรา สุวรรณวงศ์, คารม บัวผัน, ไกรษร วงศ์พรัด และ อับดุลเราะมัน มอลอ. (2564). “ความเป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนรัตภูมิวิทยา จังหวัดสงขลา” เอกสารประกอบการประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 12. (หน้า 103-122). สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
Yamane, T. (1967). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harper & Row.