การพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ เรื่อง At the Restaurant สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง

Main Article Content

พงศ์ภีระ ยอดสมุทร
ศรีสุดา พัฒจันทร์
นัฐยา บุญกองแสน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ
ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง 2) เปรียบเทียบทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลองกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/10 โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 37 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วย
1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.64-4.68  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระหว่าง 0.68-0.70 2) แบบประเมินทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษมีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67- 1.00
ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.29-0.66 และความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยนำเสนอค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t-test แบบ Dependent Sample t-test และ
แบบ One Sample t-test


        ผลการวิจัยพบว่า
  1. ทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ เรื่อง At the Restaurant ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
    ปีที่ 2 หลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลองสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  2. ทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ เรื่อง At the Restaurant ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
    ปีที่ 2 หลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
    อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  3. ความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 และมีค่า
    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ยอดสมุทร พ., พัฒจันทร์ ศ., & บุญกองแสน น. (2025). การพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ เรื่อง At the Restaurant สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบ Explicit Instruction ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, 7(2), 310–322. สืบค้น จาก https://so10.tci-thaijo.org/index.php/rdicpru/article/view/2373
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

พงศ์ภีระ ยอดสมุทร, มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

คณะศึกษาศาสตร์ 

ศรีสุดา พัฒจันทร์, มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

คณะศึกษาศาสตร์

นัฐยา บุญกองแสน, มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

คณะศึกษาศาสตร์

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

จุฑามาศ พิมพ์สินธ์ และสุรกานต์ จังหาร. (2566). การพัฒนาความสามารถด้านการฟัง และด้านการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้สถานการณ์จำลอง (Simulation) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, 17(1), 127-138.

ทิศนา แขมมณี. (2566). ศาสตร์การสอน (พิมพ์ครั้งที่ 26). สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธูปทอง กว้างสวาสดิ์. (2549). คู่มือการสอนภาษาอังกฤษ (พิมพ์ครั้งที่ 1). ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ปรียาพร ทิพยสุข และยาใจ พงษ์บริบูรณ์. (2564). การพัฒนาทักษะด้านการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์จำลองเป็นฐาน. วารสาร มจร.อุบลปริทรรศน์, 6(3), 115-123.

พัชรินทร์ จันทร์ส่องแสง. (2560). ภาษาและการรู้หนังสือสำหรับเด็กปฐมวัย (พิมพ์ครั้งที่ 1). คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี.

พระอุดมธีรคุณ และ บัณฑิกา จารุมา. (2563). ภาษาและวัฒนธรรม : ความหมาย ความสำคัญ และความสัมพันธ์ระหว่างกัน. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 7(2), 53-63.

พิมพาภรณ์ บุญประเสริฐ. (2558). วาทการ: ศาสตร์และศิลป์แห่งการพูดเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร (พิมพ์ครั้งที่ 2). ไอยรา 12.

ไพศาล หวังพานิช. (2556). เอกสารประกอบการสอนวิชาสถิติเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล.

วิภาวี ไชยทองศรี. (2563). การพัฒนาความสามารถด้านการฟัง - พูด ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยการใช้สถานการณ์จำลองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 8(1), 120-136.

สุวิทย์ มูลคำ และ อรทัย มูลคำ. (2550). 19 วิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ (พิมพ์ครั้งที่ 6). ภาพพิมพ์.

อรุณี วิริยะจิตรา. (2555). เหลียวหลังแลหน้า การสอนภาษาอังกฤษ (พิมพ์ครั้งที่ 6). หน้าต่างสู่โลกกว้าง.

Bailey, K. M. (2005). Practical English Language Teaching: Speaking (1st ed.). McGraw-Hill.

Cruickshank, D. R. (1972). Notion of Simulation and Games: A preliminary Inquiry. Education Technology, 12(7), 17-19. https://www.jstor.org/stable/44418557

Stark, K., Wexler, J., Shelton, A., Johnston, T. B., & Omohundro, K. (2023). Explicit and Evidence-based literacy instruction in middle school: an observation study. Springer Nature, 37(9), 2253-2274. https://doi.org/10.1007/s11145-023-10470-y

Talley, P. C., & Hui-ling, T. (2014). Implicit and Explicit Teaching of English Speaking in the EFL Classroom. International Journal of Humanities and Social Science, 4(6), 38-46

Rosenshine, B., & Stevens, R. (1986). Teaching Functions. In Wittrock, M. C. (Ed.). Handbook of Research on Teaching (3rd. Ed.). 376-391. Macmillan.