การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับ เจตคติ (CLAT) เพื่อเสริมสร้างทักษะการฟังและทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Main Article Content

กมลทิพย์ สายเชื้อ
คันธทรัพย์ ชมพูพาทย์
รัชนีเพ็ญ พลเยี่ยม

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ พัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีรายละเอียดดังนี้  เปรียบเทียบทักษะการฟัง  และการพูดภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) เปรียบเทียบทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT)  เปรียบเทียบทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) กับกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) และศึกษาพัฒนาการของทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลลุมพุก (วันครู 2503) ภาคเรียน ที่ 2/2561 จำนวน 2 ห้อง ได้มาจากวิธีการสุ่มอย่างง่าย ด้วยวิธีการจับสลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม และแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มทดลอง กับกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) และแบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ การดำเนินการวิจัยใช้แบบแผนการทดลองแบบผสานวิธี (Embedded Experimental Model) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ Hotelling’s T2 และ MANCOVA ผลการวิจัยพบว่ากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80.07/88.73 แสดงว่า กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ผลการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ   ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) มีทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) มีทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) มีทักษะการฟังและทักษะการพูดภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีพัฒนาการของทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษหลังจากที่ได้รับการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารบูรณาการกับเจตคติ (CLAT) เพิ่มขึ้นทุกแผน

Article Details

บท
บทความวิจัย
Author Biographies

กมลทิพย์ สายเชื้อ

สาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

คันธทรัพย์ ชมพูพาทย์

สาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

รัชนีเพ็ญ พลเยี่ยม

สาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด