การรับรู้ ความตระหนักเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

บทคัดย่อ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ ความตระหนักเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้เทคนิคในการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative research) กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ จำนวน 248 คน คำนวณจำนวนกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของ (Yamane. 1967) และทำการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล และทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย จำนวน ความถี่ ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

       ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 60.48 เพศชายร้อยละ 39.51 ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 19.85 ปี ส่วนใหญ่อยู่อาศัยในหอพักเอกชนรอบมหาวิทยาลัย ร้อยละ 61.29 รองลงมาอยู่อาศัยในบ้านเรือนในชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ร้อยละ 31.81 ระดับการรับรู้เกี่ยวกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.24 และมีระดับทัศนคติเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.78 สำหรับพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮฮอล์ ร้อยละ 54.80 ส่วนในกลุ่มที่มีพฤติกรรมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 45.20 ซึ่งมีความถี่ในการดื่มส่วนใหญ่ดื่มนานๆ ครั้ง ประมาณ 8-11 วันต่อปี ร้อยละ 9.70 ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิยมดื่มคือ เบียร์ ร้อยละ 32.30 รองลงมาคือสุราสี ร้อยละ 21.00 ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อที่ร้านขายของชำ ร้อยละ 20.60 รองลงมาซื้อที่ร้านสะดวกซื้อร้อยละ 15.30 ซึ่งสาเหตุที่ตัดสินใจดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่มาจากเพื่อนชวน ร้อยละ 36.20 รองลงมาเพราะคลายเครียด ร้อยละ 28.20 ซึ่งสถานที่ที่นิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ดื่มที่บ้าน ร้อยละ 19.30 รองลงมานิยมดื่มที่ร้านเหล้า/ผับ/บาร์ ร้อยละ 17.70