การพัฒนาสมรรถนะของครูคณิตศาสตร์ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยชุมชนแห่งการเรียนรู้ยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 2) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 และ 3) เพื่อพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยชุมชนแห่งการเรียนรู้ยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 โดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 ระยะที่ 2 ประเมินผลรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 และระยะที่ 3 พัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิในการสนทนากลุ่ม จำนวน 9 คน 2) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินผลรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะ รวมจำนวน 30 คน และ 3) กลุ่มครูในโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบประเมินรูปแบบ และแบบทดสอบสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent
ผลวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์
(3) กระบวนการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การอบรมเชิงปฏิบัติการ 4 โมดูล ส่วนที่ 2 การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 5 ขั้นตอนได้แก่ การวางแผนกำหนดเป้าหมาย การลงมือปฏิบัติ การสังเกตชั้นเรียน การสะท้อนผล และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และ (4) แนวทางการประเมินผล และ 2) ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพยุคใหม่ศตวรรษที่ 21 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.51, SD = 0.51) และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.51, SD = 0.50) และ 3) ผลการทดสอบสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ พบว่า หลังการอบรมครูมีสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ สูงกว่าก่อนเข้ารับการอบรม อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้รายใดก็ตามที่จะอ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือเชื่อมโยงไปยังข้อความทั้งหมดของบทความ รวบรวมข้อมูลสำหรับการจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือมีเจตนาเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า (Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License
References
กชพร มั่งประเสริฐ, สิทธิพร ประวัติรุ่งเรือง, และขวัญหญิง ศรีประเสริฐภาพ. (2565). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูยุค Thailand 4.0 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน, 7(1), 78 – 88.
ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2560). ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพและแนวทางการนามาใช้ในสถานศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ., 10(1), 34-41.
ธนกฤต อั้งน้อย และ อนุชา กอนพ่วง. (2564). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูใหม่ในศตวรรษที่ 21 ตามแนวคิดโรงเรียนเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 23(2), 169 – 180.
ธนัฐ มาตชรา. (2565). ผลการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24. วารสาร “ศึึกษาศาสตร์์ มมร” คณะศึึกษาศาสตร์์ มหาวิิทยาลััยมหามกุุฏราชวิิทยาลััย, 10(1), 173 – 189.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7 ฉบับปรับปรุง). สุวีริยาสาส์น จำกัด.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะทางคณิตศาสตร์. https://www.ipst.ac.th/
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2553. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). กรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษา ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่10 (พ.ศ. 2550-2554) ที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2545-2559) ฉบับสรุป. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). สภาวะการศึกษาไทย ปี 2559/2560 แนวทางการปฏิรูปการศึกษาไทยเพื่อก้าวสู่ยุค Thailand 4.0. พริกหวานกราฟฟิค.
สุภาพรรณ ธะยะธง. (2562). การศึกษาสมรรถนะของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยพะเยา.
อนุชา กอนพ่วง. (2562). การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบ STEM Education. สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (สทมส.), 25(1), 26 – 40.
อลิสรา ชมชื่น. (2550). การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยการบูรณาการทฤษฎีการพัฒนาความเข้าใจ ทางคณิตศาสตร์ การสื่อสาร และการให้เหตุผล เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Graf, E.A. (2009). Defining mathematics competency in the service of cognitively based assessment for grades 6 through 8. ETS Research Report Series, 2009(2),i-46. https://doi.org/10.1002/j.2333-8504.2009.tb02199.x
Jankvist, U. T., Mosvold, R., & Clark, K. M. (2016). Mathematical Knowledge for Teaching Teachers: The case of history in mathematics education. In History and Pedagogy of Mathematics 2016 (pp. 441-452). Montpellier, France.
Niss, M., & Højgaard, T. (Eds.) (2011). Competencies and mathematical learning: ideas and inspiration for the development of mathematics teaching and learning in Denmark. IMFUFA, Roskilde university. Tekster fra IMFUFA No. 485 http://nyfaglighed.emu.dk/kom/
OECD (2008), The Impact of Culture on Tourism. OECD Publishing. https://doi.org/10.1787/9789264040731-en