ผลการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงที่มีต่อสมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาในนักศึกษาที่เรียนวิชาแฮนด์บอล

Main Article Content

แสนศักดา วรรณมูล
สมพร จุลมาศ
พัณฑ์ชิตตา ศิรินัญทพันธ์

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาตอบสนองก่อนการฝึกและหลังการฝึกโปรแกรมการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงกลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิที่เรียนวิชาแฮนด์บอล จำนวน 60 คน และทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ใช้โปรแกรม การฝึกด้วยตาราง เก้าช่องประยุกต์ยกสูงเป็นเครื่องมือ โดยผู้วิจัยนำผู้เข้ารับการทดลอง 60 คน มาทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาตอบสนองก่อนเข้าโปรแกรมการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูง จากนั้นนำผู้เข้ารับการทดลอง 60 คนเข้าโปรแกรมการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงจำนวน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน คือวันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี เวลา 17.00 - 18.00 น. หลังจากการฝึกสัปดาห์ที่ 8 ผู้วิจัยนำผู้เข้ารับการทดลอง 60 คน ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาตอบสนองนำผลการทดสอบมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และคำนวณความแตกต่างของค่าเฉลี่ย t – test dependent


          ผลการศึกษาพบว่า โปรแกรมการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงส่งผลให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาตอบสนองของนักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิที่เรียนวิชาแฮนด์บอลดีขึ้น โดยการทดสอบความแตกต่างของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาก่อนการฝึกมีความแตกต่างจากหลังการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และทดสอบความแตกต่างปฏิกิริยาตอบสนองก่อนการฝึกมีความแตกต่างจากหลังการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่าการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูง ส่งผลให้สมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น

Article Details

How to Cite
วรรณมูล แ., จุลมาศ ส., & ศิรินัญทพันธ์ พ. (2024). ผลการฝึกด้วยตารางเก้าช่องประยุกต์ยกสูงที่มีต่อสมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงกล้ามเนื้อขาและปฏิกิริยาในนักศึกษาที่เรียนวิชาแฮนด์บอล. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, 6(2), 375–385. สืบค้น จาก https://so10.tci-thaijo.org/index.php/rdicpru/article/view/1067
บท
บทความวิจัย
Author Biographies

แสนศักดา วรรณมูล, มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

สมพร จุลมาศ, มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

พัณฑ์ชิตตา ศิรินัญทพันธ์, มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ

References

จิดาภา ศิริวรรณ์. (2562). ผลของไซมอนเอฟเฟคทางการ ได้ยินที่มีต่อเวลาปฏิกิริยาและความถูกต้อง ของการตอบสนองในนักกีฬาฟุตซอลเพศชาย. https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/9484/

วันเพ็ญ สุวรรณชัยรบ และจิรวัฒน์ ขจรศิลป์. (2563). ผลของการฝึกตาราง 9 ช่องที่มีขนาดต่างกันควบคู่กับการฝึกความอ่อนตัวที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวในกีฬาวอลเลย์บอล. วารสารวิชาการบัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต, 16(1), 163-176.

ศิราเมษฐ์ ม่วงสุวรรณ์. (2564). การเปรียบเทียบผลของการฝึกปฏิกิริยาความเร็วเท้าด้วยตารางเก้าช่องและ บันไดเชือกที่มีต่อความเร็วในการวิ่งของนักฟุตบอลหญิงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 47(1), 125-136.

สมพร ส่งตระกูล. (2565). ผลของการฝึกตารางใยแมงมุมและตารางเก้าช่องที่มีต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความคล่องแคล่วว่องไวและความเร็วของนักกีฬาวอลเลย์บอล. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 48(1), 364-378.

อทิติ วลัญช์เพียร. (2565) . ผลของการฝึกด้วยการประยุกต์สถานีฝึกแบบมวยสากลที่มีต่อสมรรถภาพทางกาย ของบุคคลทั่วไป. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ, 22(1), 164-178.

Apanukul, S. (2019). Periodization training for strength. Journal of Sports Science and Health, 20(3), 1-14.

Ayubovna, S. M. (2023). Physiological Basics of Forming Movement Skills and Teaching Sports Techniques. Intersections of Faith and Culture: American Journal of Religious and Cultural Studies, 1(9), 87-94.

Donnor, J. K. (2020). Towards an interest-convergence in the education of African-American football student athletes in major college sports. In Critical Race Theory in Education (pp. 57-79). Routledge.

James, E. (2023). Practical Training for Running, Walking, Rowing, Wrestling, Boxing, Jumping...: And All Kinds of Athletic Feats, Together with Tables of Proportional Measurement. Good Press.

Lilley, L. L., Collins, S. R., & Snyder, J. S. (2022). Pharmacology and the Nursing Process E-Book. Elsevier health sciences.

Praisin, A., Wannakayont, A., Rungruang, L., & Wannakayont, N. (2022). Public Relations of Research in Housing Design for the Elderly and Mobility Disabled People Based on People Based on Universal Design Concept through the Online Social Media. Journal of MCU Nakhondhat, 9(4), 126-139.

Qiu, L., Dong, S., Yu, X., & Han, B. (2021). Self-sensing ultra-high performance concrete for in-situ monitoring. Sensors and Actuators A: Physical, 331, 113049. https://doi.org/ 10.1016/j.sna.2021.113049

Sartori, R., Romanello, V., & Sandri, M. (2021). Mechanisms of muscle atrophy and hypertrophy: implications in health and disease. Nature Communications, 12(1), 330. https://doi.org/10.1038/s41467-020-20123-1

Siedentop, D., & Van der Mars, H. (2022). Introduction to Physical Education, Fitness, and Sport. Human kinetics.

Yongtawee, A., Park, J., Kim, Y., & Woo, M. (2022). Athletes have different dominant cognitive functions depending on type of sport. International Journal of Sport and Exercise Psychology, 20(1), 1-15.

Youyen, M. (2022). Effect of Nine Squares Training with Muscle on Balance and Agility of Children with Special Needs: Integration Learning. Academic Journal of Thailand National Sports University, 14(3), 241-252.