แนวทางในการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ ของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
คำสำคัญ:
การพัฒนาตนเอง, เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ , บุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ, อินโฟกราฟิกบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ 2.เพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจ และความต้องการ ในการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ ประชากรที่ศึกษา คือ พนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เลือกเป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 118 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ อินโฟกราฟิกเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจ และแบบสอบถามความต้องการในการพัฒนาตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ และค่าร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางสายอาชีพที่พัฒนาขึ้นในรูปแบบอินโฟกราฟิก มีความเหมาะสมและถูกต้องทั้งด้านเนื้อหาและการออกแบบ สามารถนำเสนอเส้นทางความก้าวหน้า คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง สิทธิประโยชน์ และเกณฑ์การประเมินได้อย่างชัดเจน 2.บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจในด้านสิทธิประโยชน์มากที่สุด ร้อยละ 70.34 รองลงมาด้านหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น ร้อยละ 69.61 และด้านคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง มีความรู้ ความเข้าใจน้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 65.38 สำหรับความต้องการในการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพโดยรวมคิดเป็นร้อยละ 85.93 ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบสนับสนุนความก้าวหน้า ในสายอาชีพและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
กองพัฒนาระบบบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี. (2566). ข้อมูลพื้นฐานระบบบุคลากร สืบค้นจาก https://hr.dru.ac.th/WebDRUMIS/Applications/_System/Forms/frmMainHome
กิจจา ชื่นบาน. (2560). มนุษยสัมพันธ์ในองค์การ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ชุติมา สุภาวะไตร. (2565). การพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพ และการรับรู้ความยุติธรรมที่ส่งผลต่อความผูกพัน ต่อองค์กรของพนักงานองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์.
ธิดาใจ จันทนามศรี. (2560). เนื้อหาและรูปแบบในการสื่อสารผ่านสื่ออินโฟกราฟิกเพื่อสร้างการรับรู้และจดบนเฟซบุ๊กแฟนเพจของอินโฟกราฟิกไทยแลนด์. วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารเชิงกลยุทธ์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
นภัสรพี ปรางศรี, วิรัลพัชร วงษ์วัฒน์เกษม, สุวัฒนพงษ์ ร่มศรี. (2565). ความต้องการในการพัฒนาตนเองของครูและบุคลากร สังกัดกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
บุญส่ง ลีละชาต, สุนิสา ช่อแก้ว, (2559). ความต้องการในการพัฒนาบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ประยงค์ จำปาศรี. (2561). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม, 5(1), 101-114.
มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี. (2560). ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ กำหนดระดับตำแหน่งและการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น พ.ศ. 2560. กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี. (2568). ประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สืบค้นจาก https://www.dru.ac.th/history/
ศุภลักษณ์ จุเครือ. (2561). การสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Gifographic ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop CC. นครปฐม: กองเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหิดล
สำนักวิจัยและพัฒนาระบบงานบุคคล. คู่มือการจัดทำเส้นทางก้าวหน้าในสายอาชีพของส่วนราชการนนทบุรี : สำนักงาน ก.พ., 2556
สุภาวดี ขุนทองจันทร์. (2560). การวิจัยธุรกิจ. กรุงเทพมหานคร. ซีเอ็ดยูเคชั่น.
KTC academy. (2024). ทำไมการพัฒนาตนเองถึงสำคัญในยุคปัจจุบัน. สืบค้นจาก https://kctathailand.com/self-development-importance-modern-era/
Magginson, D., & Pedler, M. (1992). Self-development: A facilitator’ guide. London: McGraw-Hill.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
