บทความวิจัย แนวทางในการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับการนวดแผนไทยในปัจจุบัน
คำสำคัญ:
การบูรณาการ, การนวดแผนกับพระพุทธศาสนา, การนวดแผนไทยปัจจุบันบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)เพื่อแนวทางในการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับการนวดแผนไทยในปัจจุบัน 2) เพื่อนำเสนอรูปแบบแนวทางในการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับการนวดแผนไทยในปัจจุบัน ผลการศึกษาพบว่า แนวทางในการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับการนวดแผนไทยในปัจจุบัน จะได้เห็นได้ว่า การนวดนั้นถือเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของการบำบัดรักษาโรคและอาการต่างๆ ตำราแพทย์เน้นจิง (Nei-Jing) ของจีนซึ่งเขียนขึ้นเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล และนอกจากนี้การใช้สมุนไพร (Herbalism) แม้แต่ในตำราอายุรเวทของอินเดีย ซึ่งมีมาตั้งแต่ 1,800 ปีก่อนคริสต์กาล ยังใช้การนวดเพื่อบำบัดรักษาโรคต่างๆ โดยสมัยพุทธกาลจะเห็นว่าจุดเริ่มต้นของการนวดแผนไทยมาจาก การรักษาโรคที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนั้น โดยทั่วไปมักมุ่งไปที่ “โรคทางกาย”มากกว่า “โรคทางใจ”ซึ่งในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ได้ปรากฏชื่อ “หมอชีวกโกมารภัจจ์” ซึ่งมาเป็นการนวดในแผนปัจจุบัน การรักษาอาการดังกล่าว รักษาโดยยาลดอักเสบ และยาแก้ปวด ยาแก้ปวดอาจมีผลข้างเคียงต่อสภาพผู้ป่วย ทําให้อาการปวดลดลงได้ไม่เพียงพอ จึงทําให้มีการรักษาโดยไม่ใช้ยาร่วมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีอย่างหนึ่งในการบำบัด และนอกจากนี้ การนวดไทยเป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่สืบทอดกันมาโดยเชื่อว่าการนวดมีจุดเริ่มต้นมาจากการช่วยเหลือกันเองภายในครอบครัว และนำไปสู่การนวดแผนไทยและพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ในปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (มปป). ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไปของกองการประกอบโรคศิลปะ. (เอกสารอัดสำเนา)
คะโต มะซะโตะชิ. (2562). หายหมดจด แค่กดจุด. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์อินสปายร์.
จําลอง ดิษยวานิช. (2549). วิปสสนากรรมฐานและเชาวอารมณฉบับปรับปรุง. พิมพครั้งที่ 3. เชียงใหม : เชียงใหมโรงพิมพแสงศิลป.
ชูศักดิ์ เวชแพศย์ และกันยา ปาละวิวัธน์. (2528). สรีรวิทยาของการออกกําลังกาย. กรุงเทพมหานคร: เทพรักษ์การพิมพ์.
ทวี วรคุณ. (2551). หมอชีวกโกมารภัจจ์. พิมพ์ที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สร้างสรรค์บุ๊คส์.
ประโยชน์ บุญสินสุข. (2543). คู่มือการนวดแผนไทย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: บริษัทก่อกิจการพิมพ์.
ปรีดา ตั้งตรงจิตร. (2535). คู่มือ การนวดแผนโบราณ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: มปพ, 2535.
พนิดา กุลประสูติดิลก. (2550). กดจุดหยุดป่วย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์วันว่าง.
พระคันธสาราภิวงศ. (2549). โพธิปกขิยธรรม. กรุงเทพหานคร : บริษัท บุณศิริการพิมพ.
พระไพศาล วิสาโล. (2552). สุขแท้ด้วยปัญญา วิถีสู่สุขภาวะทางปัญญา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร:สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
เพ็ญนภา ทรัพย์จริญ. (2544). คู่มืออบรมการนวดไทย. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: โครงการพัฒนาตํารา กองทุนสนับสนุนกิจกรรม มูลนธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา.
ยุวดี รอดจากภัย และคณะ. (2560). รูปแบบการพัฒนาชุมชนและครอบครัวต้นแบบเพื่อดูแลผู้สูงอายุ, "วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ" ปีที่ 12, ฉบับที่ 1, (มกราคม – มิถุนายน): 94.
วิชัย อึงพินิจพงศ์. (2551). การนวดแผนไทยเพื่อการบำบัด. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
อาภรณ์ เชื้อประไพศิลป์. (2543). แนวคิดการพยาบาลแบบองค์รวม. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
Cafarelli E Sim J. Carolan B;& Liebesman J. (1990). Vibratory massage and short-term recovery from muscular fatigue, Inter J Sports Med. 11 (6): 474-478.
Carrier E.D. (1922). Studies on physiology of capillaries: The reaction of the human skin capillaries to drugs and other stimuli, “Am J Physiol” 61: 528.
Grandjean,E. (1988). Fitting the task to the man. 4th ed. London: Taylor Francis.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสาร มจร ทวารวดีปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.