ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของโบราณสถาน ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน

Main Article Content

Nattarinee Siriphokkawin
Siriporn Tattawee

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวกับความพึงพอใจต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของโบราณสถาน และเพื่อศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกับความพึงพอใจต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของโบราณสถาน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวโบราณสถานในเขตเทศบาลเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน กลุ่มตัวอย่าง 300 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน t-test F-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 40-49 ปี การศึกษาระดับอนุปริญญา มีอาชีพรับจ้างอิสระ มีรายได้ 10,001-15,000 บาทต่อเดือน ภูมิลำเนาไม่อยู่ในจังหวัดลำพูน พฤติกรรมส่วนใหญ่เดินทางเพื่อพักผ่อน โบราณสถานที่มาคือ วัดพระธาตุหริภุญชัย ชอบเดินทางวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเช้า ในช่วงฤดูหนาว เดินทางมากับครอบครัวโดยรถยนต์ส่วนตัว มีผู้ร่วมเดินทาง 3-5 คน ได้รับข้อมูลจากเพื่อนหรือญาติ เข้าถึงข้อมูลจากเว็บไซต์/เฟสบุคการท่องเที่ยว มีค่าใช้จ่าย 1,001–5,000 บาทต่อครั้ง และมีความพึงพอใจต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของโบราณสถานภาพรวมในระดับมาก โดยเฉพาะด้านสิ่งอำนวยความสะดวก สรุปผลได้ว่า ปัจจัยส่วนบุคคลที่ต่างกันในด้านการศึกษาและรายได้ต่อเดือน และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ต่างกันในด้านแหล่งข้อมูลที่ได้รับและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อครั้ง มีระดับความพึงพอใจในการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวแตกต่างกัน ซึ่งหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวควรปรับปรุงเส้นทางการเดินทาง ปรับปรุงทางเดินภายในโบราณสถาน เพิ่มบุคลากรให้บริการ กำหนดแผนการท่องเที่ยวให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความพึงพอใจและกลับมาเที่ยวซ้ำ

Article Details

How to Cite
1.
Siriphokkawin N, Tattawee S. ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของโบราณสถาน ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน. PALSCR [อินเทอร์เน็ต]. 30 มีนาคม 2024 [อ้างถึง 16 มีนาคม 2025];1(1):44-60. available at: https://so10.tci-thaijo.org/index.php/PALSCR/article/view/621
บท
Research Article

References

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2564). การท่องเที่ยวของประเทศไทย. ค้นจาก http://nscr.nesdc.go.th

ณภัทร ทิพย์ศรี และคณะ. (2558). การจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวของธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดเชียงราย.วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย, 10(2), 60-70.

ทักษญา เปรมชุติวัต. (2561). ปัจจัยด้านพฤติกรรมและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มการกลับมาเที่ยวซ้ำยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา. (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.

ธิภาภรณ์ เงินเย็น. (2559). การจัดการโลจิสติกส์ของกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมืองชายแดนภูซาง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยแม่โจ้, เชียงใหม่.

ปนัสยา สิระรุ่งโรจน์กนก. (2559). พฤติกรรมและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวกรณีศึกษาตลาดน้ำาอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. (การค้นคว้าอิสะปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

ปิยะ นากสงค์ และคณะ. (2565). การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS. กรุงเทพฯ: ไรไวว่า.

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน. (2562). ท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน. ค้นจาก https://web.codi.or.th

สวิตต์ จันทร์ธาดารัตน์, และซูลกิฟลี มาหะมะ. (2562). การบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยว กรณีศึกษา หมู่บ้านคีรีวง. (โครงการวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, กรุงเทพฯ.

อดิศัย วรรธนะภูติ, จันทนา แสนสุข, อภิชยา นิเวศน์ และสุตาภัทร จันทร์ประเสริฐ. (2562). การพัฒนารูปแบบการจัดการโลจิสติกส์เพื่อการท่องเที่ยว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, นนทบุรี.

อมลิณรัศมิ์ ศรีบัวนำ. (2559). การจัดการโลจิสติกส์สำหรับการท่องเที่ยวในวัดศรีสุพรรณ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. (การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยแม่โจ้, เชียงใหม่.

Kaosa-ard, Mingsarn. et al. (2010). Integrated Development of Sustainable Tourism in the Mekong Region Phase IV. Chiang Mai: Social Research Institute, Chiang Mai University

Suriya, K. (2008). Modelling the linkage between tourism and multiple dimensions of poverty in Thailand, MPRA Paper 33798. Germany: University Library of Munich.