กลยุทธ์การสร้างอัตลักษณ์แบรนด์บุคคลเพื่อการสื่อสารการตลาดดิจิทัล กรณีศึกษา “จูดี้ จารุกิตติ์”
คำสำคัญ:
อัตลักษณ์แบรนด์บุคคล, แบรนด์บุคคล, การตลาดดิจิทัล, การสื่อสารการตลาดบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์บุคคลของ “จูดี้ จารุกิตติ์” และเพื่อสังเคราะห์กลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์บุคคลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสารการตลาดดิจิทัล เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 4 คน ร่วมกับการวิจัยเอกสารจากสื่อดิจิทัลจำนวน 4 แพลตฟอร์ม ตามแนวคิดของ Scott (1990; 2006) ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์บุคคลของจูดี้มีกระบวนการผสานความจริงใจความสม่ำเสมอและบุคลิกภาพที่แตกต่าง โดยใช้องค์ประกอบด้านการสร้างอัตลักษณ์บุคคลที่สื่อสารผ่านทางภาพลักษณ์ น้ำเสียง และพฤติกรรม ผสมผสานกับการสื่อสารอัตลักษณ์ผ่านหลายแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยจากข้อมูลผู้ติดตามทั้ง 4 แพลตฟอร์มรวมมากกว่า 1,545,800 คน พบว่า อินสตาแกรมมีสัดส่วนผู้ติดตามสูงสุดคิดเป็น 41.15% รองลงมาคือติ๊กต๊อกจำนวน 26.38% ส่วนเฟซบุ๊กจำนวน 23.29% และ ยูทูบจำนวน 9.18% ตามลำดับ การใช้สื่อหลากหลายแพลตฟอร์มดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเชื่อมโยงและความสอดประสานของอัตลักษณ์แบรนด์บุคคลให้มีความต่อเนื่อง เลือกใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์บุคคลด้วยกลยุทธ์การสื่อสารตัวตน กลยุทธ์ด้านการสร้างสรรค์เนื้อหาและกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง วางจุดขายหลักเน้นการนำเสนอความสนุก อารมณ์ขันและความอบอุ่น สร้างภาพลักษณ์ที่สดใสเข้าถึงง่ายและจริงใจ มุ่งออกแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม สร้างอัตกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีการผสมผสานความธรรมดาของชีวิตประจำวันกับความพิเศษ โดยวางตำแหน่งตนเองเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัวของผู้ติดตาม ทำให้เกิดอัตลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและใกล้ชิดผู้ติดตาม ส่งผลให้มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดตามอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ผลของการสร้างและสื่อสารตัวตนสามารถต่อยอดสู่บทบาทของผู้ร่วมสร้างคอนเทนต์และพรีเซนเตอร์กับแบรนด์ต่าง ๆ และยังสามารถแบรนด์สินค้าของตนเองได้สำเร็จอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
กันยิกา ชอว์, มาสิรี กล่อมแก้ว และธนวิทย์ เจียรวิจิตร. (2024). การเล่าเรื่องเนื้อหาเศรษฐกิจเพื่อสร้าง อัตลักษณ์แบรนด์บุคคลผ่าน TikTok. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 16(1), 258-275.
กิติยา สุริวรรณ. (2559). ความสัมพันธระหวางผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ผู้บริโภค และตราสินค้า. วารสารการสื่อสารและการจัดการนิด้า, 2(3), 79-96.
ฐปนนทิ์ พุ่มกล่อม และนันท์นภัส ศรีผึ้ง. (2567). แนวทางการสื่อสารแบรนด์บุคคล. วารสารการเมืองท้องถิ่นและนวัตกรรมการศึกษา, 3(2), 38-47.
ณัฏฐ์ บุณยสิริยานนท์. (2560). การสื่อสารข้ามสื่อเพื่อสร้างแบรนด์บุคคลของผู้ดำเนินรายการข่าว.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
นันท์นภัส ศรีผึ้ง, กรกช ขันธบุญ และกานต์ บุญศิริ. (2568). การสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์บุคคล. วารสาร มจร.อุบลปริทรรศน์, 10(1), 3069-3080.
พิทยุช ญาณพิทักษ์. (2566). การสร้างคุณค่าของแบรนด์ของธุรกิจบนตลาดออนไลน์. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 9(1), 275-288.
สมิจฐ์ พรหมมินทร์ และขวัญฟ้า ศรีประพันธ์. (2564). การสร้างแบรนด์บุคคลของนักพากย์เกมบนเฟซบุ๊ก
เกมมิ่ง. วารสารการสื่อสารและสื่อบูรณาการ, 9(2), 186-208.
สันธยา โลหะพันธกิจ. (2548). เอกสารประกอบการบรรยาย Branding & Personal Branding. ในการสัมมนาการโฆษณาปีการศึกษา 2548. ปทุมธานี.
เสริมยศ ธรรมรักษ์. (2554). การสร้างแบรนด์บุคคล: ปั้นคนให้เป็นแบรนด์. วารสารนักบริหาร, 31(1), 106-116.
วรพงษ์ ปลอดมูสิก, ภัทรบุตร เขียนนุกูล และสุกฤษฎิ์ ศรีธัญรัตน์. (2566). กระบวนการสร้างแบรนด์บุคคลของติ๊กต็อกเกอร์ กรณีศึกษา เฟิร์น ฟ.ฟัน. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 17(1), 124-143.
อรวรรณ ปิลันธน์โอวาท. (2542). การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวจิตใจ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Aaker, D. A. (1996). Building strong brands. New York: Free.
Borg, M., Lee, C., & Nguyen, H. (2022). Personal branding communication in the digital age. International Journal of Marketing and Branding, 28(3), 56-72.
Casaló, L. V., Flavián, C., & Ibáñez‐Sánchez, S. (2020). Influencers on Instagram: Antecedents and consequences of opinion leadership. Journal of Business Research, 117, 510–519.
De Veirman, M., Cauberghe, V., & Hudders, L. (2017). Marketing through อินสตาแกรม influencers: the impact of number of followers and product divergence on brand attitude. International Journal of Advertising, 36(5), 798–828.
Fawzy, M., Xie, Y., & Wright, B. (2023). Creating a personal brand: Effective strategies for online communication. Journal of Business and Communication, 15(4), 102-118.
Jackson, S., Li, T., & Zhang, X. (2020). Social media and personal branding: Opportunities and challenges. Journal of Digital Marketing, 23(1), 1-15.
Malhotra, N. K. (1991). Consumer behavior: A strategic perspective. Prentice Hall.
Marwick, A., & Boyd, d. (2011). To see and be seen: Celebrity practice on Twitter. Convergence, 17(2), 139–158.
Mogalakwe, M. (2006). The Use of Document Research Methods in Social Research. African Sociological Review, (10)1. 221-230.
Montoya, P. & Vandehey, T. (2009). The Brand called you. New York: McGrawHill.
Morgado, E., Silva, F., & Alves, J. (2020). Personal branding as a strategy for professional success. Journal of Communication Management, 24(3), 29-42.
Newberry, C. (2023). Influencer Marketing Guide: How to work with Influencers. Social Media Marketing & Management Dashboard.
Pettis, C. (1995). Techno Brands: How to create and use “brand identity” to market, advertise and sell technology products. New York: American Management Association.
Porter, M. E. (1998). Competitive Strategy. Second edition. New York: Free Press.
Sanook.com (2567). รู้จัก "จูดี้" เพื่อนคนไทยของคัลแลน ประวัติไม่ธรรมดา เจ้าของผับ-คาเฟ่ชื่อดัง. สืบค้นจาก https://www.sanook.com/news/9185018/
Schouten, A., Janssen, L., & Verspaget, M. (2019). Celebrity vs. Influencer endorsements in advertising: the role of identification, credibility, and Product-Endorser fit. International Journal of Advertising, 39(2), 258–281.
Scott, J. (1990). A Matter of Record, Documentary Sources in Social Research. Cambridge: Policy Press.
Scott, J. (2006). Social Research and Documentary Sources. Sage Benchmarks in Social Research Methods. (1), 3-40.
Scott, D. (2015). The New Rules of Marketing & PR: How to Use Social Media, Online Video,
Mobile Applications, Blogs, News Releases, and Viral Marketing to Reach Buyers Directly. In John Wiley & Sons, Inc. eBooks.
Shepherd, A. (2005). The implications of supermarket development for horticultural farmers and traditional marketing systems in Asia. FAO, Rome.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
