การวิเคราะห์ศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนในการร่วมมือจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • ศรัณย์พร ภมรพล คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

ศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, การประสานความร่วมมือ, การพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน

บทคัดย่อ

งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวและศึกษาแนวทางการวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างเทศบาลตำบลเชียงดาวและองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว ความสำคัญของการวิจัยครั้งนี้เพื่อให้ทราบถึงศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนอย่างยั่งยืน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและกลุ่มตัวอย่าง (1) การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 16 คน ได้แก่ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน สมาชิกสภาท้องถิ่นของเทศบาลตำบลเชียงดาวและองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว (2) การทำแบบสอบถาม โดยสอบถามทัศนคติจากประชาชนที่มีต่อการทำงานร่วมกันของหน่วยงานทั้ง 2 องค์กร จำนวน 222 คน โดยคำนวณตามวิธีของทาโร ยามาเน่ ผลการศึกษาพบว่า ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดเทศบาลตำบลเชียงดาวและองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาวมองว่า หน่วยงานทั้ง 2 องค์กรมีศักยภาพเพียงพอในการร่วมมือกันพัฒนาการท่องเที่ยว ในด้านบุคลากร ด้านพื้นที่ ด้านงบประมาณ ซึ่งทั้ง 2 องค์กรสามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรและบทบาทหน้าที่ในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของผู้นำชุมชน สมาชิกสภาท้องถิ่นมองว่าเทศบาลตำบลเชียงดาวและองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาวมีศักยภาพ สามารถร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ข้อเสนอแนะเทศบาลตำบลเชียงดาวและองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว ควรร่วมกันพัฒนาในด้านอื่นๆด้วย เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทุกด้าน

เอกสารอ้างอิง

เทศบาลตำบลเชียงดาว. (ม.ป.ป). สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน เทศบาลตำบลเชียงดาว. https://cdlocal.go.th/content/generalinfo

ขวัญฤทัย เดชทองคำ. (2564). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์สู่ความยั่งยืนของธุรกิจภายใต้วิกฤติโควิด 19. วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ, 17(2), 1-18.

เม กองแก้ว. (2566). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจังหวัดนครปฐม. วารสารสหวิทยาการและการจัดการภาคเอกชน, 1(3), 30-40.

อโศก พลบำรุง. (2566). แนวคิดการประสานความร่วมมืออย่างมีธรรมาภิบาล (Collaborative Governance). https://shorturl.asia/zW6w3

รัตนา สีดี. (2559). แนวทางในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจภายใต้บริบทประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับธุรกิจสปาและนวดไทย. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 9(3), 756-779.

Romero, D., Galeano, N., & Molina, A. (2008). Readiness For Collaboration Assessment Approach in Collaborative Networked Organizations. Innovation in Manufacturing Networks, 266, 47-56.

Ansell, C., & Gash, A. (2008). Collaborative governance in theory and practice. Journal of Public Administration Research and Theory, 18(4), 543-571. https://doi.org/10.1093/jopart/mum032

Emerson, K., Nabatchi, T., & Balogh, S. (2012). An integrative framework for collaborative governance. Journal of Public Administration Research and Theory, 22(1), 1-29. https://academic.oup.com/jpart/article/22/1/1/944908

Emerson, K., & Nabatchi, T. (2015). Collaborative governance regimes. Georgetown University Press. https://press.georgetown.edu/Book/Collaborative-Governance-Regimes

O’Leary, R., & Vij, N. (2012). Collaborative Public Management: Where Have We Been and Where Are We Going?. Sage Journals, 42(5), 507-522. https://doi.org/10.1177/0275074012445780

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-29

รูปแบบการอ้างอิง

ภมรพล ศ. (2025). การวิเคราะห์ศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนในการร่วมมือจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย, 7(2), 43–56. สืบค้น จาก https://so10.tci-thaijo.org/index.php/paatj/article/view/1888

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย