การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

ผู้แต่ง

  • ชลธิชา แก้วมี คณะศึกษาศาสตร์, สาขาพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬา, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • ณปภัช วชิรกลิ่นขจร คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • กัณฑริภา ศิริธนาพานิชกุล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • ปรีดีชา จรัลพงษ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
  • สุริยา จันทกูล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

DOI:

https://doi.org/10.14456/jasrru.2025.29

คำสำคัญ:

การออกกำลังกายเชิงกีฬา, เทคโนโลยีติดตามผล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลของการใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลต่อระดับความเครียดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (2) ศึกษาผลของโปรแกรมดังกล่าวต่อสุขภาพจิตของนักเรียน (3) เปรียบเทียบผลการลดระดับความเครียดและการส่งเสริมสุขภาพจิตระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมกับกลุ่มควบคุม และ (4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลจากเทคโนโลยีติดตามผลการออกกำลังกาย เช่น จำนวนก้าว แคลอรี่ที่ใช้ และอัตราการเต้นของหัวใจ กับระดับความเครียดและสุขภาพจิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประชากรกลุ่มเป้าหมายของการวิจัยประกอบด้วยนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 โรงเรียนวัดหนองใหญ่ สำนักงานเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 407 คน แบ่งเป็นนักเรียนชาย 214 คน และนักเรียนหญิง 193 คน          กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษานี้ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จากประชากรทั้งหมด โดยคัดเลือกจำนวน 60 คน (เพศชาย 30 คน และเพศหญิง 30 คน) และสุ่มแบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองได้รับการเข้าร่วมโปรแกรมการออกกำลังกายเชิงกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ พร้อมการใช้เทคโนโลยีติดตามผลผ่านอุปกรณ์สมาร์ตวอทช์และแอปพลิเคชันที่ใช้ในการประเมินระดับความเครียดและสุขภาพจิต

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามวัดความเครียด Perceived Stress Scale (PSS) และแบบสอบถามวัดสุขภาพจิต Mental Health Inventory (MHI) ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ     โดยผู้เชี่ยวชาญและมีค่าความเชื่อมั่น (Cronbach’s Alpha) เท่ากับ .89 และ .91 ตามลำดับ การเก็บข้อมูลดำเนินการสองครั้ง ได้แก่ ก่อนทดลอง (Pre-test) และหลังทดลอง (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบ t-test และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบ Pearson’s Correlation

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลองมีระดับความเครียดลดลงจากค่าเฉลี่ย 28.4 เหลือ 18.6 (ลดลง 34.5%) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.750) ด้านสุขภาพจิต กลุ่มทดลองมีคะแนนเพิ่มขึ้นจาก 55.2 เป็น 70.3 (เพิ่มขึ้น 27.4%)                อย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.001) ขณะที่กลุ่มควบคุมมีคะแนนลดลงเล็กน้อย (p = 0.420) นอกจากนี้ ยังพบความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับความเครียดกับสุขภาพจิต (r = -0.72, p < 0.001)       จากข้อมูลเทคโนโลยีติดตามผล พบว่ากลุ่มทดลองมีจำนวนก้าวเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 3,800 เป็น 6,200 ก้าว อัตราการเต้นของหัวใจลดลงจาก 85 เป็น 70 ครั้งต่อนาที และแคลอรี่ที่เผาผลาญเพิ่มจาก 250 เป็น 500 กิโลแคลอรี่ โดยทั้งหมดมีความสัมพันธ์เชิงลบกับระดับความเครียดอย่างมีนัยสำคัญ (r = -0.72, -0.68 และ -0.65 ตามลำดับ, p < 0.001)

จากผลการศึกษาสรุปได้ว่า การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นกิจกรรมในสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตของนักเรียนในระยะยาว และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ในการติดตามพฤติกรรมสุขภาพของเยาวชนต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2566). รายงานสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักสุขภาพจิตวัยรุ่น.

ชาญวิทย์ วงษ์ชนวน. (2563). ผลของกิจกรรมการออกกำลังกายต่อความเครียดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ].

ปรัชญา โพธิ์ทอง. (2564). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการออกกำลังกายโดยใช้แอปพลิเคชันสุขภาพสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต, 9(1), 112–124.

ศิริพร พรหมทอง. (2565). การศึกษาผลของการออกกำลังกายแบบกลุ่มต่อสุขภาพจิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 23(2), 87–98.

Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. New York: W.H. Freeman.

Biddle, S. J. H., & Asare, M. (2011). Physical activity and mental health in children and adolescents: A review of reviews. British Journal of Sports Medicine, 45(11), 886–895. https://doi.org/10.1136/bjsports-2011-090185

Chen, J., Guedes, C. M., Cooper, B. R., & Combs, C. E. (2020). The use of activity trackers to promote physical activity in youth: A systematic review. Journal of Pediatric Health Care, 34(4), 387–398. https://doi.org/10.1016/j.pedhc.2019.12.005

Cohen, S., Kamarck, T., & Mermelstein, R. (1983). A global measure of perceived stress. Journal of Health and Social Behavior, 24(4), 385–396. https://doi.org/10.2307/2136404

Deci, E. L., & Ryan, R. M. (2000). The “what” and “why” of goal pursuits: Human needs and the self-determination of behavior. Psychological Inquiry, 11(4), 227–268. https://doi.org/10.1207/S15327965PLI1104_01

Dishman, R. K., O’Connor, P. J., & Gray, C. (2006). Exercise and stress reduction: Implications for health. In P. H. R. S. et al. (Eds.), Handbook of Exercise and Mental Health (pp. 185–208). Academic Press.

Fox, K. R. (1999). The influence of physical activity on mental well-being. Public Health Nutrition, 2(3A), 411–418. https://doi.org/10.1017/S1368980099000567

Gerber, M., Pühse, U., & Wirth, K. (2014). Physical activity and stress reduction: A systematic review. Journal of Health Psychology, 19(5), 669–684. https://doi.org/10.1177/1359105312467390

Green, L. W., & Kreuter, M. W. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach (4th ed.). New York: McGraw-Hill.

Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.

Lazarus, R. S., & Folkman, S. (1984). Stress, appraisal, and coping. Springer Publishing Company.

Lubans, D. R., Richards, J., Hillman, C. H., Faulkner, G., Beauchamp, M. R., Nilsson, M., ... & Biddle, S. J. (2016). Physical activity for cognitive and mental health in youth: A systematic review of mechanisms. Pediatrics, 138(3), e20161642. https://doi.org/10.1542/peds.2016-1642

Ng, K., Vandelanotte, C., van Itallie, A., & Alley, S. (2021). Effects of wearable activity trackers on physical activity and psychological outcomes: A systematic review and meta-analysis. Journal of Medical Internet Research, 23(3), e25191. https://doi.org/10.2196/25191

Ng, Y. L., Wong, M. C., & Lee, A. (2021). Wearable activity trackers and health awareness: An observational study among school students in Hong Kong. BMC Public Health, 21, 223. https://doi.org/10.1186/s12889-021-10250-4

Prochaska, J. O., & DiClemente, C. C. (1983). Stages and processes of self-change of smoking: Toward an integrative model of change. Journal of Consulting and Clinical Psychology, 51(3), 390–395. https://doi.org/10.1037/0022-006X.51.3.390

Ryff, C. D. (1989). Happiness is everything, or is it? Explorations on the meaning of psychological well-being. Journal of Personality and Social Psychology, 57(6), 1069–1081. https://doi.org/10.1037/0022-3514.57.6.1069

Seligman, M. E. P. (2011). Flourish: A visionary new understanding of happiness and well-being. Free Press.

Singh, A., Uijtdewilligen, L., Twisk, J. W. R., van Mechelen, W., & Chinapaw, M. J. M. (2023). Mental health and academic stress in adolescents: A longitudinal review. Educational Psychology Review, 35(2), 123–145. https://doi.org/10.1007/s10648-022-09649-9

Thapar, A., Collishaw, S., & Pine, D. S. (2012). Depression in adolescence. The Lancet, 379(9820), 1056–1067. https://doi.org/10.1016/S0140-6736(11)60871-4

Wang, J., Wang, Y., Wei, C., & Zhang, D. (2020). The effectiveness of smart wearable devices on physical activity in adolescents: A meta-analysis. International Journal of Environmental Research and Public Health, 17(22), 8474. https://doi.org/10.3390/ijerph17228474

Wang, Y., Xu, D., Yan, S., & Huang, T. (2021). The role of wearable devices in promoting physical activity among adolescents: A pilot intervention. Journal of Adolescent Health, 68(2), 256–262. https://doi.org/10.1016/j.jadohealth.2020.06.019

World Health Organization. (2021). Adolescent mental health. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/adolescent-mental-health

World Health Organization. (2021). Digital health education: Accelerating the transformation of adolescent health learning systems. Geneva: WHO Press. https://www.who.int/publications/i/item/9789240027009

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

26-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

แก้วมี ช., วชิรกลิ่นขจร ณ., ศิริธนาพานิชกุล ก., จรัลพงษ์ ป. ., & จันทกูล ส. . (2025). การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ, 3(3), 107–124. https://doi.org/10.14456/jasrru.2025.29