การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
DOI:
https://doi.org/10.14456/jasrru.2025.18คำสำคัญ:
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์, ระหว่างสมรรถภาพทางกาย, ผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 198 คน จากโรงเรียนวัดหนองใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย ได้แก่ การวิ่งระยะทาง 50 เมตร เพื่อวัดความเร็ว และการวิ่ง ซิกแซกเพื่อวัดความคล่องตัว รวมทั้งแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอลจากทักษะพื้นฐาน ได้แก่ การเสิร์ฟ การตบ การรับลูก และการเคลื่อนไหวในสนาม โดยเครื่องมือทั้งสองชุดผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เพื่อความถูกต้องของเนื้อหา และแบบประเมินทักษะยังได้รับการตรวจสอบความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน (Cohen’s Kappa = 0.86) ซึ่งอยู่ในระดับเชื่อถือได้สูง จึงสามารถนำมาใช้เก็บข้อมูลได้อย่างเหมาะสม
การเก็บข้อมูลดำเนินการทั้งก่อน (Pre-test) และหลังการทดสอบ (Post-test) โดยใช้สถิติ เชิงพรรณนา และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s correlation coefficient) ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ทางกีฬา
ผลการศึกษาพบว่า ความเร็วมีความสัมพันธ์เชิงลบในระดับปานกลางถึงสูงกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอล (r = -0.62, p < 0.01) ส่วนความคล่องตัวมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูงกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอล (r = 0.74, p < 0.001) แสดงให้เห็นว่านักเรียนที่มีความคล่องตัวสูงมักจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเล่นที่ดีกว่า
ผลจากงานวิจัยครั้งนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการฝึกซ้อมกีฬาโดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเน้นการพัฒนาองค์ประกอบทางสมรรถภาพที่สัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ ได้แก่ ความเร็วและความคล่องตัว รวมถึงสามารถใช้เป็นแนวทางในการออกแบบโปรแกรมการเรียนการสอนพละศึกษา หรือกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพนักเรียนด้านกีฬา และอาจต่อยอดไปสู่การพัฒนานักกีฬายุวชนได้อย่างเหมาะสมในระยะยาว
การเก็บข้อมูลดำเนินการทั้งก่อน (Pre-test) และหลังการทดสอบ (Post-test) โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s correlation coefficient) ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ทางกีฬา
ผลการศึกษาพบว่า ความเร็วมีความสัมพันธ์เชิงลบในระดับปานกลางถึงสูงกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอล (r = -0.62, p < 0.01) ส่วนความคล่องตัวมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูงกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอล (r = 0.74, p < 0.001) แสดงให้เห็นว่านักเรียนที่มีความคล่องตัวสูงมักจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเล่นที่ดีกว่า
ผลจากงานวิจัยครั้งนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการฝึกซ้อมกีฬาโดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเน้นการพัฒนาองค์ประกอบทางสมรรถภาพที่สัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ ได้แก่ ความเร็วและความคล่องตัว รวมถึงสามารถใช้เป็นแนวทางในการออกแบบโปรแกรมการเรียนการสอนพละศึกษา หรือกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพนักเรียนด้านกีฬา และอาจต่อยอดไปสู่การพัฒนานักกีฬายุวชนได้อย่างเหมาะสมในระยะยาว
Downloads
References
นภาพร ทรัพย์ธนกุล. (2020). ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดขอนแก่น. วารสารพลศึกษาและสุขศึกษา, 12(3), 34–45.
อภิชัย โพธิ์ศรี. (2021). สมรรถภาพทางกายกับผลสัมฤทธิ์ในการเล่นกีฬาเทนนิสของนักกีฬามหาวิทยาลัยภาคตะวันออก. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย, 13(1), 56–66.
American College of Sports Medicine. (2021). ACSM’s guidelines for exercise testing and prescription (11th ed.). Wolters Kluwer.
Baechle, T. R., & Earle, R. W. (2008). Essentials of strength training and conditioning (3rd ed.). Human Kinetics.
Bompa, T. O., & Haff, G. G. (2009). Periodization: Theory and methodology of training (5th ed.). Human Kinetics.
Caspersen, C. J., Powell, K. E., & Christenson, G. M. (1985). Physical activity, exercise, and physical fitness: Definitions and distinctions for health-related research. Public Health Reports, 100(2), 126–131.
Fédération Internationale de Volleyball. (2020). Official volleyball rules 2021–2024. https://www.fivb.com
Gallahue, D. L., Ozmun, J. C., & Goodway, J. D. (2012). Understanding motor development: Infants, children, adolescents, adults (7th ed.). McGraw-Hill Education.
Hoffman, J. R., Vazquez, J., Pichardo, N., & Tenenbaum, G. (2019). Anthropometric and performance comparisons in professional volleyball players by playing position. Journal of Strength and Conditioning Research, 33(11), 2980–2987. https://doi.org/10.1519/JSC.0000000000002661
Lidor, R., & Ziv, G. (2010). Physical and physiological attributes of female volleyball players: A review. Journal of Strength and Conditioning Research, 24(7), 1963–1973. https://doi.org/10.1519/JSC.0b013e3181dc4bc3
Reilly, T. (2006). Science and soccer (2nd ed.). Routledge.
Sallis, J. F. (2000). Age-related decline in physical activity: A synthesis of human and animal studies. Medicine & Science in Sports & Exercise, 32(9), 1598–1600.
Sheppard, J. M., & Young, W. B. (2006). Agility literature review: Classifications, training and testing. Journal of Sports Sciences, 24(9), 919–932. https://doi.org/10.1080/02640410500457109
Smith, R., & Thomas, A. (2022). Enhancing agility and court movement in volleyball: A review of training protocols. International Journal of Volleyball Research, 29(2), 45–58.
Stodden, D. F., Goodway, J. D., Langendorfer, S. J., et al. (2008). A developmental perspective on the role of motor skill competence in physical activity: An emergent relationship. Quest, 60(2), 290–306.
World Health Organization. (2022). Guidelines on physical activity and sedentary behaviour for children and adolescents. WHO.
Young, W. B., James, R., & Montgomery, I. (2002). Is muscle power related to running speed with changes of direction. Journal of Sports Medicine and Physical Fitness, 42(3), 282–288.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
หมวดหมู่
License
Copyright (c) 2025 วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.