พฤติกรรมทางการออมเงินของกำลังพลทหารเรือต่อเป้าหมายทางการออมเงินตามแนวคิดลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์

ผู้แต่ง

  • ธวัลพร มะรินทร์ กองวิชาบริหารงานวิเคราะห์ ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ
  • ธวัชชัย เทียนบุญส่ง กองวิชาบริหารงานวิเคราะห์ ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ

DOI:

https://doi.org/10.14456/jasrru.2025.15

คำสำคัญ:

พฤติกรรมทางการเงิน, เป้าหมายทางการเงิน, ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์, การออม

บทคัดย่อ

งานวิจัยฉบับนี้เป็นงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยเศรษฐกิจสังคม และพฤติกรรมในการออมเงินของกำลังพลของข้าราชการทหารเรือต่อเป้าหมายการออมเงินตามทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ งานวิจัยนี้มีกลุ่มตัวอย่างเป็นกำลังพลกองทัพเรือจำนวน 569 คน ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน จากผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมทางการออมเงินของกำลังพลทหารเรือมีความสัมพันธ์กับเป้าหมายการออมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในลำดับขั้นที่ 5 ของมาสโลว์ (Self-Actualization) ซึ่งเชื่อมโยงกับ การออมเพื่อผลตอบแทน (r = .513) การออมเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในอนาคต (r = .500) และ การออมเพื่อซื้อสินทรัพย์ (r = .481) นอกจากนี้การวิเคราะห์การถดถอยพบว่า การออมเพื่อผลตอบแทน, แหล่งเงินทุนในอนาคต,ใช้จ่ายในสิ่งที่ตนเองต้องการ, การซื้อสินทรัพย์ และยามเกษียณ เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยพยากรณ์เป้าหมายทางการเงินของกำลังพลได้ (R² = .410, p < .05)

        สรุปได้ว่ากำลังพลของกองทัพเรือมีความมั่นคงทางการเงินในระดับพื้นฐานครอบคลุมเป้าหมายทางการเงินทั้ง 4 ระดับต้นตามแนวคิดทฤษฎีของมาสโลว์ และในปัจจุบันกำลังพลกองทัพเรือให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุนเพื่ออนาคตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออมเงินเพื่อความความต้องการรับรู้ด้านศักยภาพของตนเอง โดยผู้เขียนหวังว่าผลลัพธ์จากงานวิจัยชิ้นนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้

         งานวิจัยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นกำลังพลกองทัพเรือจำนวน 569 คน ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน จากผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมทางการออมเงินของกำลังพลทหารเรือมีความสัมพันธ์กับเป้าหมายการออมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในลำดับขั้นที่ 5 ของมาสโลว์ (Self-Actualization) ซึ่งเชื่อมโยงกับ การออมเพื่อผลตอบแทน (r = .513) การออมเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในอนาคต (r = .500) และ การออมเพื่อซื้อสินทรัพย์ (r = .481) นอกจากนี้การวิเคราะห์การถดถอยพบว่า การออมเพื่อผลตอบแทน, แหล่งเงินทุนในอนาคต,ใช้จ่ายในสิ่งที่ตนเองต้องการ, การซื้อสินทรัพย์ และยามเกษียณ เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยพยากรณ์เป้าหมายทางการเงินของกำลังพลได้ (R² = .410, p < .05)

        สรุปได้ว่ากำลังพลของกองทัพเรือมีความมั่นคงทางการเงินในระดับพื้นฐานครอบคลุมเป้าหมายทางการเงินทั้ง 4 ระดับต้นตามแนวคิดทฤษฎีของ Maslow และให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุนเพื่ออนาคต โดยผู้เขียนหวังว่าผลลัพธ์จากงานวิจัยชิ้นนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กอข้าว เพิ่มตระกูล. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมทางการเงินและเป้าหมายการออมในผู้ใหญ่วัยเริ่ม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/9135

กองทัพเรือ. (2560). แผนแม่บทการบริหารทรัพยากรบุคคลกองทัพเรือ พ.ศ.2560–2579. เข้าถึงจาก https://www.oper.navy.mi.th/OIT/O25_2_hr2.pdf

จิรภัทร รวีภัทรกุล. (2565). การตั้งเป้าหมายการออมเงิน. เข้าถึงจาก https://www.psy.chula.ac.th /th/feature-articles/saving-goal/

ชนาภา บุบโพ, ธำรงศักดิ์ เศวตเลข, และ ณัฐวุฒิ คูวัฒนเธียรชัย. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการออมและการกู้เงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์วังเดิม จำกัด. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิb, 7(1), 420-432. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/svittj/article/download/190924/171353

จิดาภา เพิ่มพูล. (2566). พฤติกรรมการออมและการลงทุนของกำลังพลสังกัดสำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรามคำแหง. https://mmm.ru.ac.th/MMM/IS/vlt16/6414991204.pdf

ทนงศักดิ์ ศรีวรรณ. (2565). Application of Maslow’s Theory in Financial Planning. เข้าถึงจาก https://www.inspirajournals.com/uploads/Issues/19417699.pdf

ประยูรศรี บุตรแสนคม. (2555). การคัดเลือกตัวแปรพยากรณ์เข้าในสมการถดถอยพหุคูณ. วารสารการวัดผลการศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 17(1): 43-60.

พัสวีศิริ ภวังคนันท์. (2563). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของนายทหารประทวนกองพลทหารราบที่ 9 ผ่านกิจการออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. https://ethesisarchive.library.tu.ac .th/thesis/2020/TU_2020_6203010456_13682_14576.pdf

พิมพ์จันทร์ ชวดจะโป๊ะ, ทับทิม พิมพ์สาลี, พัชริดา โสมาศรี, และอทิยา สุทธิพงษ์. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการออมของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. https://ms.udru.ac.th/ACresearch/assets/ pdf/20211019092529.pdf

วิภา พรหมสุข. (2562). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายการออมกับพฤติกรรมการออมของผู้ใหญ่วัยทำงาน [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

รุ่งตะวัน แซ่พัว. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการออมและการลงทุนของ Generation X ในเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. https://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2017/TU_2017_5904010088_8239_7066.pdf

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงาน ก.พ. (2566). กำลังคนภาครัฐ 2566. เข้าถึงจาก https://www.ocsc.go.th/wp-content/uploads/2024/08/thai-gov-manpower-2566-r1.pdf

ศิรัถยา อิศรภักดี. (2558). การวางแผนทางการเงินตาม “ทฤษฎี Maslow”. เข้าถึงจาก https://www.finnomena.com/wealth-me-up/maslow_theory/

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610. https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/001316447003000308

MAKE by KBank. (2567). รู้จักกับประโยชน์ของการออมเงิน เปลี่ยนชีวิตให้ดีในระยะยาว. เข้าถึงจาก https://makebykbank.kbtg.tech/articles/the-benefits-of-saving-money

Robert V. Krejcie, & Daryle W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610. https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/001316447003000308

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-04-2025

รูปแบบการอ้างอิง

มะรินทร์ ธ., & เทียนบุญส่ง ธ. (2025). พฤติกรรมทางการออมเงินของกำลังพลทหารเรือต่อเป้าหมายทางการออมเงินตามแนวคิดลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์. วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ, 3(2), 113–126. https://doi.org/10.14456/jasrru.2025.15