เครื่องกรอเส้นไหมยืด 4 ระวิง ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ
คำสำคัญ:
เครื่องกรอเส้นไหมยืด 4 ระวิง , การควบคุมระบบอัตโนมัติบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑). เพื่อออกแบบและสร้างต้นแบบเครื่องกรอเส้นไหมยืด 4 ระวิง ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ๒). เพื่อหาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกรอเส้นไหม และ ๓). เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของผู้ใช้งานเครื่องกรอเส้นไหม จากกลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มสตรีทอผ้าไหม บ้านคูบอน และบ้านหินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบบันทึกผลประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ แบบบันทึกประสิทธิภาพเซ็นเซอร์ตรวจจับเส้นไหม แบบบันทึกประสิทธิภาพความสมดุลของโครงสร้างเครื่องขณะที่ทำงานด้วยกำลังสูงสุด และแบบบันทึกผลประสิทธิภาพการกรอเส้นไหมของเครื่องกรอเส้นไหมควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ เปรียบเทียบกับการกรอเส้นไหมแบบปกติ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งาน โดยสถิติที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย มีดังนี้
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานของมอเตอร์ พบว่า ทดสอบการทำงานของมอเตอร์ 8 ครั้ง ใช้เวลาตั้งแต่เวลา 1 ถึง 8 ชั่วโมง และพักเครื่อง 10 นาทีต่อครั้งประสิทธิภาพของการทำงานของมอเตอร์อยู่ในระดับปกติ คิดเป็นร้อยละ 100 ผลของประสิทธิภาพเซ็นเซอร์ในการตรวจจับเมื่อเส้นไหมขาด จำนวน 10 ครั้ง พบว่า สามารถตรวจจับเส้นไหมได้ 10 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการทดสอบประสิทธิภาพความสมดุลของโครงสร้างเครื่องขณะที่ทำงานกำลังสูงสุด พบว่า ผลทดสอบจำนวน 7 ครั้งเวลาที่ ่ใช้ทดสอบ ครั้งละ 1 ชั่วโมง จำนวนเส้นไหม 40 หลอด ผู้ทดสอบ จำนวน 30 คน ประสิทธิภาพการกรอเส้นไหมของเครื่องควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ใช้เวลาเฉลี่ย 50.83 นาที และการกรอเส้นไหมแบบปกติ ใช้เวลาเฉลี่ย 147.10 นาที มีผลต่างของค่าเฉลี่ยเท่ากับ 96.27 นาที ผลการทดสอบสมมติฐาน โดยใช้สถิติการทดสอบที (Paired samples T test) พบว่า ประสิทธิภาพของเครื่องกรอเส้นไหมควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ สูงกว่าประสิทธิภาพการกรอเส้นไหมแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความพึงพอใจของผู้ใช้งานเครื่องกรอเส้นไหมควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 3 ข้อ และระดับมาก 7 ข้อ เรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ มอเตอร์สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง รองลงมาคือ กรอเส้นไหมได้เร็วมีคุณภาพเหมือนกันทุกชิ้น และความแข็งแรงและความเหมาะสมของวัสดุที่นำมาใช้
เอกสารอ้างอิง
สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (2560). [ ออนไลน์ ]. ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี แหล่งเรียนรู้หม่อนไหม. (สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 ). สารสนเทศท้องถิ่นอีสาน.https://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/?p=2964.
นนทนันท์ พลพันธ์ และ ธนากร ไชยโคตร. 2566. การพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพเครื่องปั่นด้าย กรอไหมอีรี่สำหรับทอผ้าพื้นเมือง. [เอกสาร]. ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการเครือข่าย วิศวกรรมไฟฟ้า ครั้งที่ 15 (1-3 พฤษภาคม 2566), สถาบันวิจัยและพัฒนา – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร.
เบ็ญจมาศ แก้วรัตน์ , วุฒิชัย สิทธิวงษ์ , เกียรติภูมิ ดวงศรี, เสถียร แจ่มแสง, คุณกร พลสินธุ์ และสมบัติกองภา. (2565) การออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ในกระบวนการทอผ้าไหมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ. รายงานผลการวิจัยหม่อนไหม ประจำปี 2565.165-198.
ศักดิ์ทนงค์ วงศ์เจริญ และคณะ. (2553). การพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องกรอด้ายกึ่งอัตโนมัติ. (รายงานวิจัย). สถาบันวิจัยและพัฒนา. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ศุภชัย แก้วจันทร์, ชูชาติ พยอม และ เอกราช นาคนวล (2562). การสร้างและหาประสิทธิภาพเครื่องตีเกลียว เส้นไหมพุ่งแบบ 2 หัวปั่นสำหรับกลุ่มเกษตรกรทอผ้าไหมในเขตพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์. วารสารเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปีที่ 7 ฉบับที่ 2. 70-82
ศุภชัย แก้วจันทร์, สุมณฑา จีระมะกร และขนิษฐา สีมา (2567). การใช้เทคโนโลยีเครื่องขึ้นลำเส้นไหมแบบนับเส้นอัตโนมัติเพื่อเสริมศักยภาพ กิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ บ้านโพธิ์กอง ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์. (รายงานวิจัย). มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
สุทธิสันต์ พิมพะสาล และคณะ (2562). การพัฒนาเครื่องสางและเครื่องตีเกลียวเส้นไหม สำหรับไหมอีรี่.(สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2567). เว็บไซต์ของหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี https://qsds.go.th/newosrd/wp-content/uploads/sites/115/2021/06/20-The-Development-of-a-Carding-Machine-and-a-Twisting-Silk- Machine-for-Eri-Silk-.pdf
