วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS <p><strong> วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) ISSN : 2985-0428 (Online) </strong>รับตีพิมพ์เผยแพร่บทความด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้แก่ สหวิทยาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สังคมวิทยา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิเทศศาสตร์ สื่อสารมวลชน ศิลปศาสตร์ ประชากรศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ การจัดการ การตลาด การเงิน การลงทุน การบัญชี ธุรกิจระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวและโรงแรม และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> <p><strong>คำแนะนำสำหรับผู้แต่ง </strong></p> <p><strong> *สามารถดูคู่มือการเตรียมบทความเพื่อขอรับการตีพิมพ์ (เพิ่มเติม) ได้ที่ <a href="https://drive.google.com/file/d/1UGnTMbPRXMAdttiQsXzw7HjBoTWhOSbF/view?usp=sharing">https://drive.google.com/file/d/1UGnTMbPRXMAdttiQsXzw7HjBoTWhOSbF/view?usp=sharing</a></strong></p> <p><strong> **ประเภทบทความที่รับตีพิมพ์ และแบบฟอร์มการเขียนบทความ (แบบ PDF) สามารถดาวน์โหลดได้ที่</strong></p> <p><strong><a href="https://drive.google.com/file/d/1MxOZeJumk7DC0fpMJKEjGISho9SlZBFY/view?usp=sharing">https://drive.google.com/file/d/1MxOZeJumk7DC0fpMJKEjGISho9SlZBFY/view?usp=sharing</a></strong></p> <p><strong> ทั้งนี้ หากท่านต้องการแบบฟอร์มการเขียนบทความ (แบบ Word) สามารถติดต่อได้ที่ </strong><strong>E-mail: [email protected]</strong></p> th-TH วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) คุณลักษณะความเป็นมืออาชีพของนักบัญชียุคดิจิทัลในบริบทจังหวัดนครราชสีมา https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/589 <p> งานวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาคุณลักษณะของความเป็นมืออาชีพของนักบัญชียุคดิจิทัลในบริบทจังหวัดนครราชสีมา การศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การทบทวนทฤษฏีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์เชิงลึก จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 3 กลุ่ม รวมทั้งสิ้นจำนวน 12 คน ได้แก่ อาจารย์ผู้สอนด้านการบัญชี จำนวน 4 คน นักบัญชี จำนวน 4 คน และเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ หรือผู้บริหารที่ใช้บริการนักบัญชี จำนวน 4 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) และเทคนิคการตรวจสอบ สามเส้าด้านข้อมูล (Data Triangulation) นำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ผลด้วยเทคนิค การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์ (Successive Approximation) และการวิเคราะห์เปรียบเทียบ (Analytic Comparison)</p> <p> ผลการวิจัย พบว่าคุณลักษณะของความเป็นมืออาชีพของนักบัญชียุคดิจิทัล ประกอบไปด้วย 1) ทักษะทางปัญญาและคุณลักษณะเฉพาะบุคคลของนักบัญชี มีความรู้ความสามารถ และความระมัดระวังรอบคอบ ทำงานด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต และมีความเป็นอิสระ 2) ทักษะด้านการจัดการองค์กร มีความสามารถในการบริหารจัดการทีมงาน ทำงานร่วมกันกับหน่วยธุรกิจอื่นๆ ในองค์กร เป็นคู่คิดทางธุรกิจ 3) ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการยอมรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และนำเทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติงาน 4) จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี 5) การสงสัยเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ 6) การรักษาความลับของลูกค้า 7) ปฏิบัติงานด้วยความทันเวลา 8) การบริหารงานแบบคล่องตัว (Agile) มาใช้ในการปฏิบัติงาน สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว คุณลักษณะความเป็นมืออาชีพของนักบัญชียุคดิจิทัลที่ดีเหล่านี้จะทำให้นักบัญชีมีความยั่งยืนและมั่นคงในอาชีพต่อไป ไม่ถูกเทคโนโลยีมาลดบทบาทและความสำคัญ นักบัญชีสามารถนำคุณลักษณะความเป็นมืออาชีพดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาตนเองให้เป็นนักบัญชีมืออาชีพในยุคดิจิทัลต่อไป</p> ธมนวรรณ ป้อมสนาม ชุติญาภัค วาฤทธิ์ Copyright (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 1 18 การศึกษาสภาพการณ์และปัญหาขยะของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยว กรณีศึกษาหาดริ้น อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/657 <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการณ์และปัญหาขยะของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยว กรณีศึกษาหาดริ้น อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยทำการสัมภาษณ์เชิงลึกด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างกับผู้ให้ข้อมูลหลัก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านใต้ ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการโรงแรม ประชาชนในชุมชน นักท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 13 คน และทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) สภาพการณ์ของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ธุรกิจที่พักแรมต่างกลับมาเปิดให้บริการตามปกติมีการปรับลดราคาห้องพักและเข้าร่วมโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว 2) ปัญหาขยะของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยวเป็นปัญหาขยะเปียกและการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี 3) อุปสรรคของปัญหาขยะของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยวซึ่งในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมมีการพัดพาขยะจากนอกเกาะมาเป็นจำนวนมากซึ่งยากต่อการจัดเก็บและกำจัด ตลอดจนบางพื้นที่มีความสูงชันประกอบกับตรอกซอยเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเข้าถึงพื้นที่เพื่อจัดเก็บ 4) การจัดการขยะของธุรกิจที่พักแรมในแหล่งท่องเที่ยวโดยธุรกิจที่พักแรมขนาดใหญ่จะมีระบบการจัดการขยะที่ดีมีการตรวจสอบแบรนด์สินค้าจากขยะพลาสติกและการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ทั้งนี้ผู้ประกอบการยังส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะ การคัดแยกเศษอาหารที่เหลือทิ้ง เน้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องพักลดการใช้พลาสติก นอกจากนี้ยังมุ่งส่งเสริมการสร้างความรู้ความเข้าใจสำหรับผู้ประกอบการและพนักงานเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการขยะที่ถูกต้องและการคัดแยกขยะ ตลอดจนการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการเพื่อการจัดการขยะของธุรกิจที่พักแรมในพื้นที่ที่มุ่งเน้นความสะอาดและความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน</p> ณัฐพล รอดเมือง อธิป จันทร์สุริย์ Copyright (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 19 33 การใช้เทคนิคต้นไม้ตัดสินใจ เพื่อจำแนกคุณลักษณะที่พักแรมต่อการเลือกใช้บริการของนักท่องเที่ยวชาวไทยในจังหวัดอุดรธานี https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/658 <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจําแนกกลุ่มคุณลักษณะที่พักแรมในจังหวัดอุดรธานีที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ โดยใช้เทคนิคการทำเหมืองข้อมูลด้วยเทคนิคต้นไม้การตัดสินใจแบบถดถอย ใช้แบบสอบถาม กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 385 คน โดยใช้สูตรในการคำนวนกลุ่มตัวอย่าง และเก็บตัวอย่างแบบบังเอิญ จากผลการวิจัย เมื่อพิจารณา ค่าตารางวัดประสิทธิภาพของโมเดลพบว่า ผลของการทำนายจากแบบจำลองมีค่า MSE = 0.245 RMSE = 0.495 MAE = 0.325 มีค่าต่ำ แสดงว่าแบบจำลองมีความเหมาะสมดี โดยจำแนกกลุ่มได้ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคุณลักษณะด้านลักษณะทางกายภาพ และด้านคุณลักษณะการส่งเสริมการตลาด ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ สามารถนำผลแบบจำลองที่ได้ไปกำหนดกลยุทธ์การตลาดต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในอนาคต</p> ณัฏฐพงษ์ ฉายแสงประทีป Copyright (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 34 49 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการร้านสะดวกซักของผู้บริโภคในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/870 <p><strong>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </strong>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลส่วนบุคคล พฤติกรรมการใช้บริการ ระดับความคิดเห็นปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิผลต่อการใช้บริการร้านสะดวกซัก ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 385 ตัวอย่าง ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนธันวาคม 2565- มกราคม 2566 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพรรณา โดยใช้สถิติค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) &nbsp;และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สถิติอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) ด้วยวิธี Enter</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์และปัจจัยด้านส่งเสริมการตลาด สามารถร่วมกันอธิบายความผันแปรของการตัดสินใจใช้บริการร้านสะดวกซัก ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ร้อยละ 61 ดังสมการ</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; Y = 0.096 + 0.182 ด้านผลิตภัณฑ์ (X<sub>1</sub>) + 0.148 ด้านส่งเสริมการตลาด (X<sub>4</sub>)</p> อังควิภา แนวจำปา รัชนี งาสระน้อย Copyright (c) 2023 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 50 61 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดของร้านอาหารริมทางหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/608 <p> การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของประเภทร้านอาหารริมทางต่อการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาด และศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดของร้านอาหารริมทาง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ประชากรและกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ประกอบการร้านอาหารริมทางในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 400 ราย เครื่องมือในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ T – test Independence, Anova ด้วยวิธีของ Scheffe และวิเคราะห์ถดถอยแบบเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการประเภทร้านอาหารริมทางแตกต่างกันให้ความสำคัญกับการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่แตกต่างกัน ได้แก่ ปัจจัยผลิตภัณฑ์ ราคา การส่งเสริมการตลาด ลักษณะทางกายภาพ กระบวนการ และผู้ประกอบการและพนักงาน ส่วนปัจจัยช่องทางการจัดจำหน่าย ผู้ประกอบการร้านอาหารริมทางให้ความสำคัญกับการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดหลังจากสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกัน และปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก ได้แก่ การเมืองและกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และเทคโนโลยี ทั้งสี่ปัจจัยมีอิทธิพลต่อการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ส่วนประสมการตลาดของร้านอาหารริมทาง ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 สามารถอธิบายความผันแปรกับตัวแปรตามได้ถูกต้องร้อยละ 66</p> จอมภัค จันทะคัต เยาวเรศ จันทะคัต Copyright (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 62 82 The Relationship Between Service Quality and Customer Satisfaction in Commercial Banks: A Case Study of the Industrial and Commercial Bank of China, Xixia District Branch in Yinchuan City https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/871 <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; As a vital sector of the service industry, the banking industry's primary mission is to provide relevant financial services to society, playing a pivotal role in both economic activities and social life. This research aimed to investigate the relationship between service quality and customer satisfaction based on relevant theories. The study had three main objectives: (1) to examine the relationship between service quality and customer satisfaction within Chinese commercial banks; (2) to identify the factors influencing customer satisfaction and service quality in Chinese commercial banks; and (3) To provide guidance on improving service quality and customer satisfaction within Chinese commercial banks, ultimately enhancing the industry's competitiveness and facilitating the vigorous development of commercial banks.The study utilized a sample of customers from Yinchuan Industrial and Commercial Bank of China and conducted an empirical study on the relationship between service quality and customer satisfaction using a random systematic sampling method. Specifically, the primary bank outlets and branches of commercial banks in Xixia District of Yinchuan city were randomly selected through a drawing lots process. The Pearson correlation coefficients calculated between technical quality and functional quality, technical quality and service recovery quality, and functional quality and service recovery quality were found to be 0.517, 0.432, and 0.598, respectively. Based on the results of the empirical analysis, this paper proposes practical countermeasures and suggestions to enhance service quality and customer satisfaction, serving as a valuable reference for commercial banks. Data was collected through formal questionnaires, and statistical software SPSS 17.0 was employed to analyze and process the data. The hypotheses were tested through regression analysis, ultimately confirming that service quality positively influences customer satisfaction. Additionally, the study found that the three dimensions of service quality, namely technical quality, functional quality, and service recovery quality, also exert a positive and significant impact on customer satisfaction. Interestingly, while service quality, functional quality, and service recovery quality all positively affect customer satisfaction, technical quality does not significantly influence it.</p> Ma Chenqi Kemmarin Chupradist Copyright (c) 2023 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 83 99 การจัดการการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรมโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน กรณีศึกษาชุมชนท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานี https://so10.tci-thaijo.org/index.php/JVU_HS/article/view/659 <p> ประเด็นความสำคัญของนโยบายและแผนการพัฒนาต่าง ๆ ที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม โดยการจัดการการท่องเที่ยวให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและการจัดการการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตอย่างเป็นระบบ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการจัดการการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรมโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน กรณีศึกษาชุมชนท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานี โดยยึดกรอบและแนวทางการตามนโยบายและแผนพัฒนาที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรมทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค จังหวัดและท้องถิ่น โดยการจัดการการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือที่สำคัญให้ประชาชนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านทรัพยากรทางท่องเที่ยว การบริการการท่องเที่ยวและการตลาดท่องเที่ยว โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์และการมีส่วนร่วมในการประเมินผล ซึ่งแต่ละชุมชนต่างมีต้นทุนทรัพยากรท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และเทศกาล งานประเพณีที่มีความโดดเด่นเฉพาะพื้นที่ ประกอบกับความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรมของชุมชนท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานี ได้แก่ ชุมชนไทยจีน ชุมชนมลายูจะบังติกอ ชุมชนผสมผสานและชุมชนทรายขาว ทั้งยังมุ่งเน้นการส่งเสริมการทำงานอย่างบูรณาการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาควิชาการ ซึ่งเป็นกลไกนำไปสู่การจัดการการท่องเที่ยวอย่างสมดุลและยั่งยืนทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคมและวัฒนธรรมและมิติด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป</p> อัซลีนาร์ อูเซ็ง อธิป จันทร์สุริย์ Copyright (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-10-12 2023-10-12 1 2 100 120